‘กรีลิช’ เผยกลับมามั่นใจหลังพบซีซั่นที่ลำบาก

‘กรีลิช’ เผยกลับมามั่นใจหลังพบซีซั่นที่ลำบาก

แจ๊ค กรีลิช ยอมรับว่าฤดูกาลนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตัวเขา แต่ตอนนี้ก็กลับมามีความมั่นใจในการลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง

เขามีบทบาทสำคัญต่อการช่วย แมนฯ ซิตี้ กวาดสามแชมป์ในฤดูกาลก่อน แต่ซีซั่นนี้พบกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนและผลิตสกอร์ไม่ได้

แข้งทีมชาติ อังกฤษ ได้ออกสตาร์ทไปเพียงแค่ 9 จาก 33 เกมในลีกของ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ ซึ่งน้อยลงเยอะเมื่อเทียบกับการเป็นตัวจริง 23 นัดในซีซั่นก่อน อย่างไรก็ตาม กรีลิช บอกว่าตอนนี้เขาลงสนามด้วยความมั่นใจ

“ฤดูกาลนี้ยากลำบากเลยนะ โดยเฉพาะที่ปีก่อนผมมีซีซั่นที่ดี ผมได้ลงสนามเยอะและเป็นหนึ่งในตัวหลักของทีมและเล่นเกมสำคัญทุกนัด” กรีลิช ให้สัมภาษณ์กับ

The Athletic

“ตอนเริ่มต้นฤดูกาลนี้ผมเจ็บขาทำให้ต้องพักไปเดือนนึงและจากนั้นไม่ได้ลงสนามบ่อยนัก ผมว่าฟอร์มของผมไม่ได้ดีที่สุดและก็ไม่ได้เล่นด้วยความมั่นใจนัก พอปีใหม่ผมก็พบอาการเจ็บอีกเช่นเดียวกับที่ขาหนีบ”

“ช่วงหลังผมก็ยิงประตูไม่ได้นะแต่ผมก็รู้สึกดี ผมรู้สึกฟิตและรู้สึกเล่นด้วยความมั่นใจที่ดี หวังว่าผมสานต่อไปจนถึงช่วงสิ้นฤดูกาลได้”

แม้จะไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกบ่อยแต่ กรีลิช เป็นตัวจริงตลอดทั้ง 8 นัดในแชมเปี้ยนส์ลีกและโดนเปลี่ยนตัวออกหลังผ่านไปชั่วโมงนึงในเกมที่ดวลจุดโทษพ่าย เรอัล มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์

เมื่อถามว่าอะไรคือทำให้ตัวเขาเสียความมั่นใจไปในตอนต้นฤดูกาล กรีลิช ตอลว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมว่าบางครั้งถ้าคุณไม่ได้ลงสนามและซ้อมไม่ดี ในความคิดคุณมันก็แบบไม่รู้สึกมั่นใจ”

“ไม่ใช่เรื่องของการยิงประตูหรือแอสซิสต์ด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจถึงแม้ผมยิงไม่ได้ ผมทำแอสซิสต์ได้ในสัปดาห์ก่อนที่ เบร์นาเบว แต่ผมบอกมาก่อนแล้วว่าทุกวันนี้ทุกคนชอบพูดถึงสถิติประตูกับแอสซิสต์มากเกิน”

“ผมหงุดหงิดนะที่ฟุตบอลเป็นแบบนี้ไปแล้ว เพราะพอคุณมีเกมอันยอดเยี่ยมแต่พอยิงประตูหรือแอสซิสต์ไม่ได้คนก็จะพูดว่า ‘เขาไม่ได้ทำแบบนั้นแบบนี้’ แล้วพอคุณยิงประตูจากการชาร์จเผาขนที่เสาไกลแม้เล่นได้ไม่ดีแต่ทุกคนก็แบบว่า ‘เขาทำได้ยอดเยี่ยม'”

“ในตอนนี้ผมรู้สึกดีและรู้สึกมั่นใจ ในตอนต้นฤดูกาลผมรู้สึกว่าเล่นได้ไม่ดีเลย ว่าตามตรงตอนนั้นผมไม่รู้สึกว่าตัวเองฟิต การมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม, ได้ลงสนาม, แล้วจากนั้นก็หลุดจากรายชื่อ, เดี๋ยวเล่นเดี๋ยวดร็อป, ก็รู้สึกยากลำบากอยู่สักหน่อยแต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีแล้วล่ะ”

ที่มา: soccersuck