พรีเมียร์ฯ มีลุ้นส่ง 5 ทีมเตะ CL ปีหน้า

พรีเมียร์ฯ มีลุ้นส่ง 5 ทีมเตะ CL ปีหน้า

มีการเปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผ่านเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า หมายความว่าทีมจากอังกฤษ มีสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นถึง 5 ที่นั่ง

ตั้งแต่ฤดูกาล 2024-2025 ถ้วย “บิ๊กเอียร์” มีการปรับการแข่งขันแบบใหม่โดยจะมีทีมที่ผ่านไปเล่นเพิ่มอีก 4 ทีม ทำให้มีถึง 36 สโมสรร่วมชิงชัย และลีกที่มีผลงานดีที่สุดในยุโรปอีก 2 ลำดับของซีซั่นนี้ จะได้ที่นั่งเพิ่มอีกชาติละ 1 สโมสร

2 ที่แรกซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุด 2 แห่ง จะทำให้ทีมที่ไม่ได้ผ่านไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติในรูปแบบเดิมผ่านเข้าไปเล่นในปีหน้าอีก 1 ที่ ซึ่งหากนับย้อนไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วจะเป็น ลิเวอร์พูล และ อตาลันต้า ที่ได้สิทธิ์ดังกล่าวไป เนื่องจากอังกฤษ และอิตาลี มีค่าสัมประสิทธิ์ลำดับ 1 และ 2

1 ที่ต่อมาจะเป็นทีมอันดับ 3 ของลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าในอันดับที่ 5 โดยเมื่อปีก่อนคือลีก เอิง ฝรั่งเศส ดังนั้นจะเป็น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ได้ผ่านเข้ารอบอัตโนมัติ ส่วนแรนส์ จะได้มาลุ้นเล่นรอบคัดเลือกแทนที่จะเตะยูโรป้า ลีก อย่างไรก็ดี ในฤดูกาลนี้ เอเรดิวิซี่ ลีก ของฮอลแลนด์ มีคะแนนสัมประสิทธิ์แซงหน้าฝรั่งเศสขึ้นมา ทำให้พวกเขาน่าจะได้สิทธิ์พิเศษดังกล่าวไป

อันดับต่อมาอีก 1 ที่ จะเป็นการเตะรอบคัดเลือกของทีมแชมป์ประเทศต่างๆ ซึ่งจากเดิมมีเพียงแค่ 4 ที่นั่ง แต่แบบใหม่จะเพิ่มเป็น 5 ที่นั่ง โดยอันดับดังกล่าวจะเป็นทีมที่อยู่นอกลีกท็อป 10 ของยุโรป ซึ่งแชมป์ของแต่ละประเทศไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกแบบอัตโนมัติ

สำหรับพรีเมียร์ลีกนั้น มีโอกาสมากที่พวกเขาจะได้ 5 ที่นั่งไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า เพราะลีกติดอันดับท็อป 2 ถึง 6 จาก 7 ฤดูกาลหลัง มีเพียงปี 2019-2020 เท่านั้นที่ สเปน และเยอรมนี ยึดหัวหาดในตารางค่าสัมประสิทธิ์

หากสุดท้ายแล้วพรีเมียร์ลีก ได้ 5 ทีมไปแข่งในยุโรปจริง จะมีถึง 8 สโมสรที่ได้ร่วมวงโม่แข้งฟุตบอลยุโรป โดย 5 อันดับแรกไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก, อันดับ 6 ไปเตะยูโรป้า ลีก ร่วมกับแชมป์เอฟเอ คัพ และแชมป์คาราบาว คัพ จะลงเล่นในคอนเฟเรนซ์ ลีก และหากแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้ไปเตะบอลยุโรปอยู่แล้ว อันดับก็จะตกเป็นของสโมสรลำดับถัดมาในตารางคะแนนแทน

การแข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีกในซีซั่นหน้าจะไม่มีการแบ่งกลุ่มเหมือนเดิม แต่ทั้ง 36 ทีมจะเล่นในลีกเดียวกัน ทว่าจะมีการจับสลากแบ่งออกเป็น 4 โถขึ้นอยู่กับค่าสัมประสิทธิ์ต่างๆ

แต่ละสโมสรจะถูกจับสลากมาเตะ 8 เกม โดยแบ่งเป็นเกมในบ้าน 4 นัดและนอกบ้านอีก 4 นัด ซึ่งคู่แข่งจะมาจากแต่ละโถที่ถูกจัดวางเอาไว้ และสโมสรจากชาติเดียวกันจะไม่เจอกันเอง แต่ก็มีเงื่อนไขว่าหากชาติไหนที่มีการส่งทีม 4 สโมสรหรือมากกว่า ก็มีสิทธิ์เจอทีมจากบ้านเดียวกันได้ 1 ทีม

ต่อมาคือการแข่งขันในรอบสุดท้าย โดยเอา 8 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที ส่วนอันดับ 9-24 นั้นจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเพื่อชิงสิทธิ์อีก 8 ที่นั่ง และอันดับ 25-36 จะตกรอบไป ซึ่งรอบนี้จะเตะกันเพียงนัดเดียว โดยประกบคู่จากคะแนนที่ทำได้ในตารางลีกของรอบแรก หรือหมายความว่ายิ่งอันดับสูงเท่าไหร่ก็จะเจอทีมอันดับต่ำกว่าเท่านั้น

ทั้งนี้ จากตารางค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าในปัจจุบัน อังกฤษ นำโด่งมาที่ 91.678 คะแนน ตามมาด้วย สเปน (78.489) , อิตาลี (74.569), เยอรมนี (71.909), ฮอลแลนด์ (56.500) และฝรั่งเศส (54.831)

ที่มา: soccersuck