สิงห์ปิดดีลซื้อที่ดินติดเดอะ บริดจ์รองรับแผนขยายสนาม

สิงห์ปิดดีลซื้อที่ดินติดเดอะ บริดจ์รองรับแผนขยายสนาม

Blueco บริษัทเจ้าของสโมสร เชลซี ยืนยันว่าการซื้อที่ดินและแฟลตทหารผ่านศึกมูลค่า 80 ล้านปอนด์ที่อยู่ติดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พวกเขาบรรลุข้อตกลงในการซื้อที่ดินของแฟลตสำหรับทหารผ่านศึกได้ในเดือนตุลาคมปีก่อน แต่ตอนนี้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับแผนการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขา

การเจรจาดำเนินตลอดปีที่ผ่านมาโดยเหล่าทหารผ่านศึกไม่พอใจเพราะพวกเขาโดนบีบให้ย้ายออกจากบ้านของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม เชลซี และตัวแทนของมูลนิธิที่ดูแลแฟลตดังกล่าวได้ยืนยันว่าพวกเขาพร้อมช่วยทหารผ่านศึกตามหาที่อยู่อาศัยใหม่

แฟลตดังกล่าวมีชื่อว่า เซอร์ ออสวัลด์ สโตลล์ แมนชันส์ และตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 100 ปี โดยเป็นบ้านของทหารผ่านศึกประมาณ 100 คนซึ่งพวกเขาผ่านการรับใช้ชาติในเกาหลี, ไอร์แลนด์เหนือและอัฟกานิสถาน

ปัจจุบันสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีความจุ 41,000 ที่นั่งแต่พวกเขามีแผนที่จะขยายความจุเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ที่นั่ง

นั่นจะทำให้สนามของ “สิงห์บลูส์” ขยับขึ้นมามีความจุท็อปซิกซ์ของพรีเมียร์ลีก เป็นรองเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล

คาดหมายกันว่า เชลซี จะต้องหารังเหย้าชั่วคราวเพื่อใช้งานเป็นเวลา 4 ปีหากพวกเขาเดินหน้าตามแผนปรับปรุง เดอะ บริดจ์

มีหลายสนามที่ถูกเอ่ยถึงว่าอาจเป็นบ้านชั่วคราวให้พวกเขา ไม่ว่าจะเป็น เวมบลีย์, ทวิคเคนแน่ม รวมถึงสนาม คราเว่น ค็อทเทจ ของ ฟูแล่ม

เชื่อกันว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ ได้พูดคุยกับ ชาฮิด ข่าน เจ้าของทีม ฟูแล่ม อย่างไม่เป็นทางการถึงการใช้รังเหย้าร่วมกัน แต่แม้สนาม คราเว่น ค็อทเทจ จะห่างไปแค่ไมล์เดียวแต่ความจุก็เพียงแค่ 25,700 ที่นั่งทำให้รายได้จะหดไปเยอะ

แล้วหาก เชลซี เลือกที่จะค่อยๆปรับปรุงสนามไปที่ละอัฒจันทร์ พวกเขาก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 5 ปี

ที่มา: soccersuck